บ้านบ้าน วิภาวดี 20
บ้านบ้าน วิภาวดี 20

Blog ทำบ้านให้เป็นบ้าน

รู้ อยู่ ดี
เรื่องบ้านบ้านที่น่ารู้ตั้งแต่แรกแรก
บ้าน คือหนึ่งในปัจจัยสี่ที่ก็รู้รู้ว่ามีความสำคัญขนาดไหน
บ้าน เป็นทั้งความฝันและความจริง หลายคนใช้เป็นทั้งแรงขับและแรงเคลื่อนให้กับชีวิต
บ้าน มีความเป็นมาหลายพันปี นับตั้งแต่ที่มนุษย์เริ่มมีความคิดอยากลงหลักปักฐาน
บ้าน มีมากมายหลายรูปแบบ หลายขนาด หลายทำเล และหลายรุ่นของคนที่อาศัยอยู่
บ้าน อาจะเกิดขึ้นเพราะคนสร้าง แต่บ้านเองก็ดูแล รองรับ และสร้างคนขึ้นมาเช่นกัน
เพราะ บ้าน นั้นสำคัญ จึงขอนำ 5 เรื่องบ้านบ้านที่น่ารู้มาบอกกัน เพราะ ‘รู้แล้วจะได้อยู่ดี’ หรืออาจจะ ‘อยู่แล้วรู้ไว้ก็ดี’

อยู่ก่อนใคร

บ้านหลังเก่าที่สุดในโลกแล้วยังหลงเหลือสภาพให้เห็นต้องมอบตำแหน่งนี้ให้แก่ Knap of Howar บ้านหินที่ตั้งอยู่บน เกาะปาปา เวสต์เรย์ (Papa Westray) ของสกอตแลนด์ ที่คาดว่าสร้างขึ้นในยุคหินใหม่ เมื่อ 3,500 ปี ก่อนคริสตกาล หรือราว 6,000 กว่าปี ตัวบ้านเป็นอาคารก่อผนังด้วยหินสูง 1.5 เมตร ภายในบ้านพบหลักฐาน หลุมปักเสาไม้ เพื่อค้ำโครงหลังคา หลังคาคาดว่าทำจากกิ่งก้านและใบไม้ ภายในยังพบว่าแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ห้อง แต่ที่เด็ดกว่านั้น คือยังหลงเหลือเฟอร์นิเจอร์ เช่น เตียง ชั้นวางของ และตู้ ที่ทำจากหินล้วน ๆ เรียกได้ว่า นอกจากเป็นบ้านที่ถึกทน ข้ามกาลเวลาแล้ว คนสมัยนั้นก็ช่างสร้างสรรค์ และอดทนในการสร้างบ้านหินด้วยมือเปล่า ปัจจุบันแม้เรา จะมีเครื่องมือทันสมัย ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ในการสร้างบ้านหินแบบนี้
บ้านบ้าน วิภาวดี 20

โฉนดใบแรก

ประเทศไทยออกโฉนดที่ดินฉบับแรกเมื่อ 118 ปีก่อน สืบเนื่องมาจากการที่ พระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จประพาสต้นที่พระนครศรีอยุธยา ได้ทรงทราบถึงปัญหาการร้องเรียนกรรมสิทธิ์ ที่ดินกันอย่างมาก ซึ่งสมัยนั้นไม่มี เอกสารระบุตำแหน่งบริเวณพื้นที่ จึงทรงโปรดเกล้าฯ ออกประกาศ พระบรมราชโองการให้มีการออกหลักฐานเกี่ยวกับ กรรมสิทธิ์ที่ดิน และถือเป็นกฎหมาย เมื่อ 15 กันยายน พ.ศ. 2444 สำหรับโฉนดเลขที่ 1 ของไทยนั้น ออกเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2444 โดยมีพระนาม ‘สมเด็จพระปรมินทร มหาจุฬาลงกรณ์’ ทรงถือกรรมสิทธิ์ เลขที่ดิน 117 ระวาง 17 ต 3 อ ตำบลบ้านแป้ง อำเภอพระราชวัง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีเนื้อที่จำนวน 91 ไร่ 1 งาน 52 ตารางวา
บ้านบ้าน วิภาวดี 20
ที่ดินผืนนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ได้ทรงพระราชทานที่ดิน ดังกล่าวให้กับสำนักงาน ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในปี พ.ศ. 2518 เพื่อมอบให้กับเกษตรกร ซึ่งปัจจุบันที่ดินผืนนี้ อยู่ในพื้นที่ หมู่ 1 ตำบลวัดยม อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ตึกที่มีทุกแถว

อาคารอเนกประสงค์ที่คนไทยคุ้นเคยคงไม่พ้นอาคารพานิชย์ หรือ ‘ตึกแถว’ อาคารประเภทนี้ไม่ใช่รูปแบบสถาปัตยกรรมของไทย แต่ไฉนมีให้เห็นตั้งแต่เหนือจรดใต้แดนสยาม ตึกแถวนั้นเป็นรูปแบบการสร้างบ้านของชาวจีน สมัยก่อนคนจีนจะถูกเรียกเก็บภาษี เทียบจากความกว้างของหน้าบ้าน ชาวจีนจึงนิยมสร้างบ้านที่มีหน้าบ้านแคบ แต่มีความลึกมากถึง 4-5 เท่า เมื่อชาวจีนที่ย้าย ถิ่นฐานมาประเทศไทย ก็นิยมสร้างบ้านหรืออาศัยในตึกแถวที่ตนเองคุ้นเลย
ตึกแถวรุ่นแรกเกิดขึ้นในย่านถนนเจริญกรุง อันเป็นถนนสายแรกของไทยและเป็นย่านการค้าที่สำคัญที่ตัดขึ้นในปี พ.ศ. 2404 ที่ดินแถวนั้นส่วนใหญ่เป็นของคหบดี ประกอบกับชาวจีนมีอุปนิสัยและความสามารถในการค้าขาย เหล่าคหบดีจึงสร้างตึกแถว ให้ชาวจีนเช่าระยะยาว ตึกแถวเปลี่ยนรูปแบบเศรษฐกิจของเราอย่างมากตั้งแต่นั้นมา ต่อมาหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ราวปี พ.ศ. 2490 ไทยเติบโตทางเศรษฐกิจ มีการกระจายตัวของย่านธุรกิจใหม่ๆ เช่น สุขุมวิท เพชรบุรี พระรามสี่ แม้ว่าจะมีอาคาร สำนักงานและศูนย์การค้าในสมัยนั้นแล้วก็ตาม เหล่าธุรกิจรายย่อยนิยมซื้อ หรือสร้างตึกแถวของตนเอง เพราะความอเนกประสงค์ ของตึกแถวตอบความต้องการของธุรกิจย่อยต่างๆ ได้ดีกว่า แม้แต่โชว์รูมรถยนต์ในสมัยนั้นก็ยังทำธุรกิจในตึกแถว จนกระทั่ง ช่วงยุควิกฤตเศรษฐกิจ ปี พ.ศ. 2540 ทำให้กิจการซบเซาลง อาคารที่เคยคึกคักด้วยผู้คนเริ่มร้างจากการปิดตัวของบริษัท และร้านค้า ธุรกิจตึกแถวก็ตกชะตากรรมเช่นเดียวกัน
บ้านบ้าน วิภาวดี 20
เมื่อเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวอีกครั้ง ธุรกิจขยายตัวเงินทองสะพัด ปัญหาใหม่ที่เกิดขึ้น คือ ผังเมืองกรุงเทพฯ มีจุดด้อยในด้าน เส้นทางคมนาคม ทำให้เกิดการจราจรที่คับคั่ง อันเป็นผลจากความรุ่งโรจน์ของเศรษฐกิจช่วงนั้น การทำธุรกิจในตึกแถวจึงไม่สะดวก ทั้งผู้ให้บริการ/ค้าขายและผู้ซื้อ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางหรือการจอดรถ ขณะเดียวกันอาคารสำนักงาน และศูนย์การค้าใหม่ๆ เริ่มเปิดตัวขึ้น มอบความสะดวกให้ผู้ใช้บริการแบบ One Stop Service และมีพื้นที่จอดรถรองรับพอเพียง ชะตาของตึกแถว เริ่มเข้าสู่ยุคตกต่ำ หนำซ้ำถนนสายสำคัญๆ อย่างเจริญกรุง สีลม สุขุมวิท เพชรบุรี หรือพระรามสี่ ได้ยกเลิกการจอดรถ ริมทางเท้าเพื่อแก้ปัญหาการจราจร นี่จึงเป็นเหมือนการปิดฉากความรุ่งเรืองของสถาปัตยกรรมตึกแถวในเมือง
ปัจจุบัน ตึกแถวย่านกลางเมืองกลายสภาพเป็นเพียงที่อยู่อาศัยของเจ้าของเดิม บ้างปรับเป็นห้องเช่าราคาถูก ขณะที่หลายแห่ง ถูกซื้อรวบ ซื้อยกแผง หลีกทางให้กับโครงการคอนโดฯ หรูกลางเมือง หรือคอมมูนิตี้มอลล์ อย่างไรก็ดี ความอเนกประสงค์ ของตึกแถวยังช่วยให้ฟื้นคืนชีพ โดยเฉพาะกับธุรกิจท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์ที่กำลังรุ่งเรืองในปัจจุบัน การปรับปรุงอาคารเก่า ดูจะคุ้มค่ากว่าสร้างใหม่ หรือการเช่าตึกแถวทำกิจการเฉพาะกลุ่มจะใช้งบน้อยกว่าเช่าในศูนย์การค้า ตึกแถวหลายที่ปรับเปลี่ยน เป็นโฮสเทล ปรับโฉมเป็นร้านอาหารสุดฮิป หรือแม้แต่แกลเลอรี่งานศิลปะงานดีไซน์ร่วมสมัย ในยุคที่ไลฟ์สไตล์มีอิทธิพลอย่างมาก ผู้คนยอมสละรถยนต์ส่วนตัวเพื่อเสพไลฟ์สไตล์รูปแบบใหม่ๆ โดยมองข้าม ความไม่สะดวกในการเข้าถึง
บ้านบ้าน วิภาวดี 20
อนาคตของตึกแถวอาจจะอยู่หรืออาจจะไป เป็นเรื่องที่คาดเดายาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในยุคที่ใจคนเปลี่ยนไว ตามกระแสโซเชียล ได้หวังแค่ว่าตึกสวยๆ ที่มากด้วยเรื่องราวและประวัติศาสตร์ที่มีทุกแถวแบบนี้จะอยู่ในใจคนไทยทุกที่ไปอีกนานๆ

เริ่มจัดสรร

โครงการหมู่บ้านจัดสรรแห่งแรกของไทย ‘หมู่บ้านเศรษฐกิจ’ ก่อตั้งเกิดขึ้นเมื่อ 50 ปีก่อน ในย่านบางแค ถูกพัฒนาขึ้นโดย คุณไถง สุวรรณทัต อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่ต้องการนำที่ดินของครอบครัวมาจัดสรรเป็น ที่ดินแปลงย่อยๆ ขายให้กับ ผู้มีรายได้น้อยได้นำไปสร้างที่อยู่อาศัย แม้จะเป็นหมู่บ้านจัดสรรแห่งแรก แต่มีการวางผังแม่บท ที่เป็นสมบูรณ์แบบ มีความ เป็นสัดส่วน มีการสร้างบรรยากาศให้ร่มรื่นน่าอยู่อาศัยด้วยการขุดทะเลสาบขนาดใหญ่ ถึงขั้นกลายเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ อันขึ้นชื่อของคนกรุงเทพฯ ในยุคนั้นเลยทีเดียว แม้ในปัจจุบัน โครงการบ้านต่าง ๆ ที่มีพื้นที่ใหญ่ ยังคงยึดแนวทางสร้างพื้นที่ พักผ่อนหย่อนใจเช่นเดียวกับหมู่บ้านเศรษฐกิจ ทุกวันนี้ ผู้คนในประเทศไทยมากกว่า 1 ใน 3 อยู่อาศัยในโครงการหมู่บ้านจัดสรร ซึ่งนับวันจะเป็นอัตราส่วนที่เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
บ้านบ้าน วิภาวดี 20

บ้านแฝดที่ไม่เดี่ยว

ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าบ้านแฝดสร้างขึ้นครั้งแรกเมื่อใด แต่บ้านแฝดได้รับความนิยมอย่างมากในสหรัฐอเมริกาช่วง ค.ศ. 1920 หรือ พ.ศ. 2463 ในยุคนั้นมีการเติบโตของเศรษฐกิจและมีการเปลี่ยนแปลงของสังคม ถือเป็นการเข้าสู่ยุค อุตสาหกรรม ผู้คนชาวสหรัฐฯ ได้เปลี่ยนอาชีพจากกสิกรสู่การเป็นคนงานอุตสาหกรรม เกิดการย้ายถิ่นฐานจากชนบท เข้าสู่เมืองใหญ่ ส่งผลให้เกิดความต้องการที่อยู่อาศัยในเมืองซึ่งที่ดินจำกัดและราคาที่ดินสูง การสร้างบ้านเดี่ยวจึงมีราคาสูง ขณะที่ทาวน์เฮ้าส์ ไม่ตอบโจทย์ครอบครัวที่มีสมาชิกหลายคนและการคุ้นชินในการอยู่อาศัยแบบมีพื้นที่โล่งภายนอก ดังนั้นจึงเกิดรูปแบบบ้านแฝด ที่ถือเป็น Hybrid ระหว่างบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์
บ้านบ้าน วิภาวดี 20
แม้ในปัจจุบัน บ้านแฝดยังเป็นดีไซน์ที่มีความโดดเด่น พื้นที่สอยทั้งภายในและภายนอกตอบสนองการใช้งาน และมอบความ เป็นส่วนตัวที่เหนือชั้นกว่าทาวน์เฮ้าส์ ขณะเดียวกันยังมอบบรรยากาศที่ดูโปร่งสบายในการอาศัย บ้านแฝดถือเป็นการออกแบบ ที่ใช้ที่ดินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยประหยัดค่าบำรุงรักษา และคุ้มค่ากับราคา
บ้านแฝดต้องมีส่วนหนึ่งของบ้านติดกับข้างบ้าน สมัยก่อนอาจเกิดเสียงรบกวนได้ง่าย ปัจจุบันเรามีวัสดุก่อสร้างและเทคนิค การก่อสร้างที่ดีมากขึ้น รวมถึงการออกแบบจัดผังที่แยบยล ลดปัญหาที่อาจเกิดกับ การมีผนังร่วมกับเพื่อนบ้าน และมีรูปลักษณ์ สวยงามไม่แพ้บ้านเดี่ยว
ไม่พลาดทุกเรื่องบ้านจากเรา
ทำบ้านให้เป็นบ้าน