บ้านบ้าน วิภาวดี 20
บ้านบ้าน วิภาวดี 20

Blog ทำบ้านให้เป็นบ้าน

บ้านแบบ Bawa
บ้านบ้าน วิภาวดี 20
“บ้านที่เป็นบ้าน” ที่คิดว่าเหมาะสมและใกล้เคียงกับบ้านในเมืองร้อนของประเทศไทยเราที่สุด
ก็เห็นจะเป็นบ้านแบบ BAWA (บาวา) บ้านแบบที่ทำให้ใจและกาย อยู่ใกล้กับธรรมชาติ ด้วยความเข้าใจในทุกสิ่งไปตามความเป็นจริง
เราคุ้นเคยกับคำว่า Tropical Modern หรือ Modern Tropical ผ่านสถาปนิกผู้ทรงอิทธิพล อย่าง Geoffrey Bawa (เจฟฟรีย์ บาวา) ชาวศรีลังกาเชื้อสายอังกฤษ จากนักกฎหมายสู่สถาปนิก ผู้เติบมาในตระกูลนักกฎหมายผู้มั่งคั่ง มีพี่ชายคือ Bevis Bawa นายทหารและภูมิสถาปนิกที่มีชื่อเสียงเช่นกัน หลังจากเรียนจบด้านกฎหมายที่ Cambridge และทำงานด้านกฎหมายในช่วงเวลาสั้นๆ เขาใช้เวลาสองปีเดินทางท่องเที่ยวหลังจากการเสียชีวิตของแม่ เพื่อค้นหาตัวเอง จนเมื่อกลับมาบ้านเกิด เขาก็พลิกแผ่นดินสวนยางพารา ให้เป็นสวนสไตล์อิตาเลียนในแบบของเขาเอง ด้วยการนำไม้เมืองร้อน มาปรับใช้เพื่อให้เข้ากับบริบทของถิ่นที่อยู่ เมื่อถึงเวลาต้องจริงจัง Bawa จึงตัดสินใจไปเป็นสถาปนิกฝึกหัด ใน บ. Edwards, Reid and Begg อยู่หนึ่งปีเต็ม และกลับไปที่อังกฤษอีกครั้งเพื่อศึกษาต่อด้านสถาปัตย์ ที่ Architectural Association of London (AA) หลังจากนั้นเขาได้ร่วมงานกับ James John Ulrik Plesner สถาปนิกชาวเดนมาร์ก ซึ่งทำให้ Bawa และนิยามแนวคิดที่เท่ที่สุดในยุคอย่าง Tropical Modernism ก็เกิดขึ้นนับจากนั้น

คิด ด้วยความเข้าใจ

หากย้อนกลับไปเมื่อ100 ปีที่แล้ว นิยามของคำว่า Modernism ได้ถือกำเนิดขึ้น ภาวะหลังสงครามโลกครั้งที่2 เศรษฐกิจต่างๆค่อยๆฟื้นตัว เป็นระยะเวลาของการเริ่มต้น โรงเรียนศิลปะและออกแบบที่แตกต่างที่สุดในโลกได้ก่อตั้งขึ้น อิทธิพลจากสไตล์งานแบบ Bauhaus โดยมีปรมาจารย์หัวเรือหลักในด้านงานสถาปัตยกรรมอย่าง เลอ คอร์บูซิเยร์ (Le Corbusier) นำรูปแบบของความเรียบง่าย เข้าใจธรรมชาติของวัสดุและการใช้งานที่ดี เข้ามามีบทบาทในการออกแบบ และเมื่อแนวคิดนี้อยู่ในบริบทที่ต่างไปและส่งถึงมือสถาปนิกผู้มีความเข้าใจในถิ่นที่อยู่อย่าง Bawa ก็ทำให้เกิดแนวคิดแบบ Tropical Modernism เป็นงานสถาปัตยกรรมเขตร้อนที่ผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมแบบศรีลังกาและความโมเดิร์น นำความเป็นพื้นบ้านดั้งเดิมมาใช้ใหม่ ทำให้เกิดการตีความที่หลากหลายในงานโมเดิร์น แต่ทั้งหมดนี้ผ่านการสังเกตจนเกิดความเข้าใจในสภาพแวดล้อม ถิ่นที่อยู่ ภูมิประเทศ เพื่อให้เกิดงานสถาปัตยกรรมที่คำนึงถึงผู้อยู่อาศัยจริงๆ มีบ้านหรืออาคารที่มีการถ่ายเทอากาศที่ดี คำนึงถึงวัสดุที่ใช้ในการออกแบบ เก็บรักษาธรรมชาติที่อยู่รอบตัว เป็นต้น
บ้านบ้าน วิภาวดี 20

ลึก ถึงความรู้สึก

Bawa เป็นสถาปนิกผู้สร้างความเคลื่อนไหวในวงกว้างกับแนวคิดนี้ ด้วยงานสถาปัตย์ที่เหมาะสมกับถิ่นที่อยู่ เป็นความโมเดิร์นแบบภูมิภาคโดยแท้ แม้รากเหง้าของสไตล์โมเดิร์นจะมาจากตะวันตก ในยุคที่มีการใช้เทคโนโลยีจากระบบอุตสาหกรรม อย่าง กระจก เหล็กหรือคอนกรีตในงานสถาปัตยกรรม แต่ Bawa เลือกที่จะละทิ้งบางสิ่งและเก็บบางสิ่งที่เข้ากันไว้มาปรับใช้ นำความเป็นตะวันตกมาผสมผสานให้เหมาะกับตะวันออก โดยนึกถึงการใช้งานตามสภาพภูมิอากาศ แสงธรรมชาติ การวางแปลนแบบเปิดโล่ง และใส่ความรู้สึกที่มีต่อพื้นที่นั้นๆลงไปด้วย เมื่อใส่ความรู้สึกเข้าไปกับงาน จึงทำให้เกิดพื้นที่ที่ตอบรับการใช้งานที่แตกต่างออกไป เช่น ระเบียงกว้างหรือคอร์ตที่มีต้นไม้ใหญ่เป็นพระเอก หรือมุมนั่งเล่นไว้สำหรับฟังเสียงฝนตกเป็นต้น
บ้านบ้าน วิภาวดี 20

ชัด จากภูมิปัญญา

เอกลักษณ์หนึ่งในงานของเขาที่ทำให้เป็นที่จดจำได้ชัดเจน นอกจากการคิดถึงบริบทโดยรอบแล้ว การเลือกใช้วัสดุพื้นถิ่น ที่มีการจัดการได้ง่าย อย่าง หิน ไม้สัก กระเบื้องดินเผา และงานประติมากรรมหรือของใช้ของตกแต่งในพื้นถิ่น ภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ถูกหลอมรวมเข้ากับความโมเดิร์น อย่างงานออกแบบบ้านของเขาเอง ที่ Lunuganga จะเห็นได้ว่าเลือกใช้วัสดุที่เรียบง่าย มีองค์ประกอบของงานไม้เป็นหลัก ทั้งประตูและหน้าต่าง การตกแต่งภายในที่ใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้และงานตกแต่งแบบพื้นถิ่น รวมถึงการจัดวางแปลนแบบเปิดโล่ง มีความกลมกลืนกับธรรมชาติและเชื่อมโยงเข้าหากัน เช่นในส่วนของห้องกระจกที่เป็นเหมือนสะพานเชื่อมระหว่างสองอาคาร สามารถเห็นมุมมองสวนสวยๆได้รอบตัว สร้างความรู้สึกอบอุ่นและภาวะน่าสบายให้กับบ้านได้อย่างสมบูรณ์
บ้านบ้าน วิภาวดี 20

อยู่ สบายแบบเขา

หากมองว่าสไตล์ทรอปิคัลมีความอ่อนน้อมถ่อมตนก็คงไม่ผิดนัก สไตล์นี้เป็นการอยู่แบบไม่รบกวน สร้างสมดุลให้สิ่งรอบข้าง ให้ธรรมชาติเป็นผู้ช่วย ดูแลกันและกัน แต่แนวคิดแบบนี้พื้นที่แบบไหนก็น่าจะปรับให้สบายได้ แต่ต้องมาตั้งแต่เริ่มต้นก่อสร้าง ซึ่งต้องมีข้อควรคำนึงถึงและคิดควบคู่ไปกับการออกแบบ ดังนี้
บ้านบ้าน วิภาวดี 20
อยู่ กับธรรมชาติ
ไม่ใช่แค่การสร้างภาพหรือการให้ธรรมชาติเหมือนเป็นกรอบรูปให้กับบ้าน แต่การเก็บสิ่งที่มีอยู่เดิมไว้เป็นสิ่งสำคัญ งานสไตล์ทรอปิคัล ส่วนใหญ่จึงใส่ใจในสิ่งที่อยู่แวดล้อม ต้นไม้ที่มีอยู่เดิม สิ่งที่เติบโตอยู่ในพื้นที่นั้น มากกว่าการไปจัดการ ให้ทุกอย่างอยู่ในกรอบ จนดูประดิษฐ์มากเกินไป จึงเกิดการออกแบบพื้นที่ซึ่งเชื่อมต่อกับธรรมชาติได้อย่างกลมกลืน เช่น พื้นที่ระเบียง คอร์ทกลางบ้านไว้พักผ่อนและแน่นอนต้องเป็นมุมที่มีต้นไม้เป็นพระเอกไว้ให้ได้พักสายตาด้วย
บ้านบ้าน วิภาวดี 20
อยู่ กับสภาพแวดล้อม
อาจดูเหมือนเป็นการมองในภาพรวมขนาดใหญ่ แต่การสังเกต เรียนรู้ และเข้าใจสภาพภูมิประเทศ ภูมิอากาศ ของถิ่นที่อยู่ไว้ก่อน จะทำให้การออกแบบบ้านมีความเฉพาะตัวและตอบโจทย์การใช้งานจริงได้ดี บ้านในเขตร้อนชื้นจึงควรคำนึงเรื่องความร้อน ความชื้นจากฝนและอากาศภายนอก เช่น ยกพื้นสูงเพื่อระบายความร้อนและป้องกันความชื้น ร่วมกับออกแบบหลังคาหรือฝ้าเพดานสูงเพื่อให้ความร้อนระบายออกไปได้ดี มีช่องแสงที่เพียงพอเพื่อช่วยในการระบายอากาศ เป็นต้น นอกจากภูมิประเทศและภูมิอากาศแล้ว การเข้าใจสัมผัสทั้ง 5 ของมนุษย์ก็เป็นสิ่งที่สร้างบรรยากาศให้บ้านสงบ แต่ทว่ายังคงความมีชีวิตชีวาไว้ได้ เช่น ออกแบบหน้าต่างหรือประตูบ้านใหญ่ เพื่อเปิดรับฟังเสียงฝน สูดกลิ่นดินหลังฝนตก ฟังเสียงนกในยามเช้า รู้สึกถึงลมที่พัดอยู่ภายนอก ก็เปลี่ยนบรรยากาศบ้านธรรมดาให้พิเศษขึ้นได้
บ้านบ้าน วิภาวดี 20
อยู่ กับภูมิปัญญา
เมื่อเข้าใจในธรรมชาติและอากาศของถิ่นที่อยู่ การเลือกวัสดุที่ใช้กับบ้าน จึงเป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึงตามมา ในการออกแบบบ้านแต่ละหลังในสไตล์นี้ จึงมีนำวัสดุพื้นถิ่นมาใช้เป็นหลัก เช่น ไม้ประจำท้องถิ่น หวาย ไม้ไผ่ อิฐ หิน กระเบื้องดินเผา หรือวัสดุที่เกิดในภูมิภาคนั้นๆ นอกจากนี้ยังรวมถึงของตกแต่ง ง านฝีมือซึ่งเกิดจากภูมิปัญญา เมื่อมาผสมผสานกับสถาปัตยกรรมแบบโมเดิร์น เรียบง่าย ก็ทำให้งานหัตถศิลป์เหล่านี้เพิ่มมูลค่าขึ้นและขับความสวยงามให้ยิ่งโดดเด่นขึ้น
บ้านบ้าน วิภาวดี 20
บ้านบ้าน วิภาวดี 20
อยู่ แบบเปิดใจ
บ้านแบบแปลนเปิดโล่ง ทุกส่วนของบ้านสามารถเชื่อมต่อถึงกันได้ มองเห็นสวนหรือคอร์ทกลางบ้าน ช่องแสงหรือซุ้มประตูขนาดใหญ่เพื่อเปิดรับลมและธรรมชาติ แสงเงาที่เกิดการตกกระทบจนดูคล้ายงานศิลปะ และมุมมองที่เปลี่ยนไปในทุกช่วงเวลา จึงไม่น่าแปลกใจที่การจัดวางแปลนแบบนี้ เราเห็นได้บ่อยในบ้านสไตล์รีสอร์ทหรือบ้านพักตากอากาศริมทะเล บ้านในป่าใหญ่ หรือบ้านที่มีการเชื่อมโยงนำธรรมชาติมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต แต่ทั้งหมดนี้ต้องเกิดจากความตั้งใจตั้งแต่เริ่มต้น มีการสังเกตแสงและทิศทางลมกันตั้งแต่ก่อนเริ่มสร้าง เพื่อให้บ้านเปิดใจและเปิดรับสิ่งดีๆและผู้อยู่อาศัยเองก็สัมผัสและรู้สึกถึงธรรมชาติได้แบบเต็มที่ และใช้เวลาอยู่กับบ้านได้นานยิ่งขึ้น
บ้านบ้าน วิภาวดี 20
แนวคิดนี้เกิดในแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นแนวคิดที่เกิดมาเพื่อเขตร้อน และแน่นอนว่าหากอยากมีบ้านที่สบาย มีธรรมชาติเป็นเพื่อน เรามั่นใจว่าแนวคิดแบบ Tropical Modernism และบ้านแบบ BAWA นี่ล่ะ เหมาะกับประเทศไทยที่สุดแล้ว
ไม่พลาดทุกเรื่องบ้านจากเรา
ทำบ้านให้เป็นบ้าน